วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

น้ำมันมะพร้าว ดีกว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีอย่างไร


น้ำมันมะพร้าว ดีกว่า น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี อย่างไร ทำไมจึงควรหันมาทานน้ำมันที่ไม่ผ่านความร้อนกันมากขึ้น

น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีก็ คือ น้ำมันพืชตามท้องตลาด ที่โฆษณาว่าแช่เย็นแล้วไม่เป็นไขนั่นเอง
ที่ไม่เป็นไขเพราะได้มีการแต่งเติมสารเคมี เช่น โซดาไฟ สารฟอกขาว และเติมสารไฮโดรเจนลงไป เพื่อป้องกันการเหม็นหืนและเก็บไว้ได้นาน และที่สำคัญคือไม่เป็นไขนั่นเอง ซึ่งถูกใจผู้บริโภคในปัจจุบันกันมาก  แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ น้ำมันพืชชนิดนี้จะมีความเหนียวหนืดเร็ว  และจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง ที่ความร้อน ประมาณ 40 องศาเซลเซียส

น้ำมันมะพร้าว  เป็นน้ำมันที่ไม่ได้เติมสารเคมี ไม่ผ่านกระบวนการความร้อน เต็มไปด้วยวิตามิน และเป็นไขมันอิ่มตัวชนิดดีที่ละลายน้ำได้ จับตัวกันเป็นก้อน ทนต่อความร้อนสูง  ไม่เติมไฮโดรเจน จึงไม่มี Trans Fatty Acid หรือ TFA  จึงไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน

น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธี เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วจึงจับกับผนังหลอดเลือด ออกได้ยาก จึงเป็นที่มาของโรคต่าง ๆ มากมาย โรคที่ฮิตกันในปัจจุบันคือ โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์  เหตุของการเป็นโรคต่าง ๆ เกิดจาก น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีที่ไปเคลือบในระบบดูดซึมของร่างกาย แล้วไม่มีทางออกจากร่างกาย ทำให้สารอาหารต่าง ๆ ไม่สามารถดูดซึมไปใช้งานได้ ซึ่งสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งาน ส่วนใหญ่จะต้องละลายในน้ำได้เช่นกัน พวก กรดอมิโน วิตามินบี วิตามินซี

การเจ็บป่วยต่าง ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยเห็นกันอย่างชัดเจนในตอนแรก แต่จะค่อยสะสมจนถึงระยะนึงแล้วแสดงอาการออกมาให้เราเห็น

ทำให้มีการตั้งคำถามว่าแล้วน้ำมันแต่ละชนิดที่ผ่านกรรมวิธีตามท้องตลาด เป็นน้ำมันพืชที่เลวใช่หรือไม่ คำตอบก็คือ ถ้าผ่านกรรมวิธีล้วนมีการเติมสารเคมีย่อมไม่ดีค่ะ  แต่ถ้าเลือกใช้น้ำมันที่ไม่ผ่านการเติมแต่งแล้วจะชนิดไหนก็ดีค่ะ  ยิ่งน้ำมันพืชที่เป็นไขให้เห็นได้ยิ่งเป็นน้ำมันพืชที่ไม่ผ่านการแต่งเติมแน่นอน เพราะการอิ่มตัวของน้ำมันต้องเป็นไข ซึ่งเป็นคุณสมบัติของน้ำมันที่ดี

ดังนั้นหากท่านเจอน้ำมันพืช ที่เป็นไขแล้วก็อย่าตกใจกลัวนะคะ  นั่นเพราะมันคือน้ำมันที่ดี แต่น้ำมันอีกชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงคือ น้ำมันหมู ที่เป็นไขมันจากสัตว์ สามารถบริโภคได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป เนื่องจากไขมันสัตว์จะมีคอเลสเตอรอล ซึ่งมีข้อแตกต่างจากไขมันจากพืชค่ะ  จะว่าไปแล้วน้ำมันพืชเป็นไขมันอิ่มตัวชนิดดี ที่ไม่ไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล หรือเรียกว่า HDL (High density lipoprotein) ขณะเดียวกันจะช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ที่เป็นสาเหตุของเบาหวาน โรคหัวใจ  หรือเรียกว่า LDL

(อ้างอิงบทความจากผลงานวิจัยแปลจากนักโภชนาการต่างชาติ และดร.ณรงค์ โฉมเฉลา)
เรียบเรียงโดย ...วรรณะสมุนไพร

www.vannaherb.com
www.facebook.com/vannaherb
www.น้ำมันมะพร้าวเกษตร.com



4 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ28 กรกฎาคม 2555 เวลา 11:33

    อยากทราบว่าน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนำไปผัดกับข้าวได้หรือเปล่า และบอกว่าน้ำมันพืชที่ใส่สารปรุงแต่งและทำให้ไม่เป็นไข จะเป็นอตรต่อร่างกายแล้ว ถ้าจะทำกับข้าวด้วยวิธีการผัดทอดจะใช้น้ำมันชนิดไหนดีหรือได้บ้าง และนำ้มันมะพร้าวสกัดธรรมชาติจะนำมาผัดทอดได้หรือไม่และหาซื้อได้ที่ไหน ขอบคุณ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. น้ำมันมะพร้าว สกัดเย็น สามารถนำมาผัด ทอด ทำอาหารได้ตามปกติ แต่ว่าจะมีกลิ่นธรรมชาติของมะพร้าวติดมาด้วยอาจจะทำกลิ่นอาหารเปลี่ยนไป แต่หากผู้รับประทานเคยชินกับกลิ่นแล้วก็ไม่มีปัญหาค่ะ

      หากต้องการน้ำมันสกัดเย็นที่ไม่มีการผ่านกระบวนการผลิตแล้วล่ะก็ น้ำมันทุกประเภทดีหมดค่ะ แต่ต้องเป็นแบบสกัดเย็นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

      น้ำมันมะพร้าวของเรายี่ห้อ วรรณะ หาซื้อได้จากเวบไซด์ www.น้ำมันมะพร้าวเกษตร.com หรือ
      www.vannaherb.com ค่ะ

      ลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ28 กรกฎาคม 2555 เวลา 11:37

    ลองน้ำมันมะพร้าวมาอมดูยังบอกไม่ได้ว่ามีผลดีหรือไม่ แต่ก็รู้สึกสบายปากมากขึ้น แต่รักษาแผลในปากได้หรือไม่ยังไม่ทราบเพราะยังไม่ได้ผล ผมดำสลวย ก็ยังตอบไม่ได้ แต่ก็ผมนิ่มดี...ทาหน้าเห็นเพื่อนๆว่าหน้าเด้งขาวยังไม่ได้ผลคะ ไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าใด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มากไปด้วยวิตามินอีสูง แต่การใช้สารธรรมชาติเหล่านี้อาจจะต้องอาศัยเวลาค่ะ เหมือนการเติมสารอาหารให้กับร่างกาย การจะเห็นผลควรใช้อย่างต่อเนื่องและนาน 1 เดือนเป็นต้นไป จะทำให้เห็นผลอย่างชัดเจน
      เช่น การนำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมาทาหน้า ตอนนี้นิยมกันมาก หรือใช้แทนโทนเนอร์
      แต่การนวดเพื่อบำรุงผิวหน้าจะเห็นผลได้ ควรนวดสัก 10 นาทีเป็นต้นไป โดยนวดแบบเยิ้ม ๆ เลยค่ะ เพื่อให้วิตามินอี ซึมเข้าสู่ผิวหนังได้และเช็ดซับความมันออกค่ะเพียงเท่านี้ จะรู้สึกว่าผิวนุ่ม และสิ่งสกปรกที่ติดอยู่กับใบหน้าจะหลุดออกได้ดียิ่งขึ้น ผิวหน้าจะเสมือนถูกผลัดเซลล์ผิวไปในตัวค่ะ สังเกตุการเช็ดหน้าออกค่ะ จะมีความดำติดออกมาเรื่อย ๆ

      ยังไงแล้วจะเป็นกำลังใจให้นะคะ
      หากได้ผลอย่างไร ก็มาแชร์กันได้คะ

      ลบ