วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทความประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว ถอดบทความจากคลิปวีดีโอเชิงวิชาการของ อ.รุจน์ (รายการของสันติอโศก)


บทความประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว

ถอดบทความจากคลิปวีดีโอเชิงวิชาการของ อ.รุจน์ (รายการของสันติอโศก)

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นน้ำมันมะพร้าวที่ไม่ผ่านกรรมวิธี มีคุณสมบัติแตกต่างกันกับน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ ตามโครงสร้างของกรดไขมันของชนิดนั้น ๆ

น้ำมันถั่วเหลือง , น้ำมันทานตะวัน เป็นน้ำมันกรดไขมันที่ยังดีไม่พอ ส่วนน้ำมันทีดีขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
คือน้ำมันรำข้าว และน้ำมันปาล์ม  เนื่องจากมีกรดไขมันอิ่มตัวและโอเมก้า6 เมื่อโดนความร้อนมักเปลี่ยน
รูปเป็นไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็ง   กรณีต้องการลดกลิ่นธรรมชาติจากน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นสามารถนำน้ำมันดังกล่าวข้างต้นมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวได้เช่นกัน  จะได้คุณสมบัติลดกลิ่นหืนไวและลดกลิ่นมะพร้าวธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นมะพร้าว แต่ต้องเป็นน้ำมันสกัดเย็นเท่านั้น

โดยมีการจัดอันดับตามคุณประโยชน์จากโครงสร้างสารอาหารทีดีที่สุดคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น
รองลงมาคือน้ำมันมะกอกสกัดเย็น รองลงมาอีกคือ น้ำมันหมู  ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อ ว่าน้ำมันจากสัตว์
เช่น น้ำมันหมูจะดีกว่าน้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันทานตะวันด้วยซ้ำ โดยแบ่งตามกรดไขมันที่มีอยู่

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และน้ำมันหมู  เมื่อโดนความร้อนแล้วมักหลุดออกจากภาชนะได้ง่ายกว่าน้ำมัน
ชนิดอื่น ๆ ซึ่งหมายถึงเมื่อเข้าสู่ร่างกายของเรา มันจะเกาะติดตามผนังลำไส้ทำให้เหนียวหนึบ สารอาหารไม่ซึมผ่าน และเซลส์ร่างกายเสื่อมสภาพ มีปัญหาตามมาของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ,เบาหวาน ทำให้กีดขวางการเดินของหลอดเลือดและสารอาหารส่วนการบริโภคน้ำมันมะพร้าว สามารถหลุดออกได้ง่ายเมื่อโดนน้ำเปล่า

กรณีโรคเบาหวาน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องบริโภคยา ซึ่งทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับไตตามมา กรณีมีการบริโภค
น้ำมันถั่วเหลือง หรือ น้ำมันทานตะวันเข้าไป มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับไตตามมาเสมอ ทางการแพทย์ของอเมริกาจึงได้แก้ปัญหาโดยการเติม กรดไขมันสายปานกลางเข้าไป ซึ่งอยู่ในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นนั่นเอง หลักการนำมาแก้คือ เปลี่ยนวิธีในการรับประทานจากน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีทั้งหมด มาเป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น มาทำอาหารแทนในชีวิตประจำวันทั้งหมด

อาการผู้ที่เป็นโรคไต คือ สังเกตุจากปัสสวะมักขุ่น มีฟอง เนื่องจากไตจะขับโปรตีนออกมาจากปัสสวะ แนะนำให้เปลี่ยนวิธีในการรับประทานน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีทั้งหมดเช่นกัน  ลดอาหารกลุ่มโปรตีนช่วงแรก ,รับประทานน้ำมันมะพร้าวก่อนอาหาร 1-2 ช้อนโต๊ะทุกวัน , ลดอาหารลดจัด เช่น เค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด  ซึ่งจะเห็นผลภายใน 2 อาทิตย์ จะมีอาการดีขึ้น

น้ำมันในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบผ่านกรรมวิธี (ตามท้องตลาด) และแบบสกัดเย็นทั้งหมดความแตกต่างของน้ำมันสกัดเย็นเองก็มีความแตกต่างในการเลือกรับประทาน เนื่องจากมีโครงสร้างของไขมันแตกต่างกัน ทำให้การจัดเก็บรักษาภายใต้อุณหภูมิก็ย่อมแตกต่างกัน เพื่อให้คงคุณภาพสำหรับพร้อมใช้น้ำมันถั่วเหลืองสกัดเย็น เป็นน้ำมันที่เก็บรักษายากมาก ซึ่งไม่สามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้ ต้องเก็บเข้าตู้เย็นส่วนน้ำมันรำข้าวสกัดเย็น เป็นน้ำมันรองลงมาที่พอจะเก็บรักษาได้ง่ายขึ้น  ซึ่งน้ำมันดังกล่าวหายากมาก ในปัจจุบันจะเห็นน้ำมันสกัดเย็นจากน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันงาเป็นส่วนมาก  อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อน้ำมันสกัดเย็นเองควรมีหลักในการเลือก คือ  ควรเลือกน้ำมันที่ทนต่ออุณหภูมิสูง , ไม่มีการแต่งเติมสารกันหืน สารกันเสียไม่แต่งเติมสี ไม่แต่งเติมกลิ่น  ซึ่งน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเองหลายยี่ห้อในท้องตลาดมักจะผสมกลิ่นหอมของมะพร้าวเข้าไป หรือกลิ่นต่าง ๆ ซึ่งกลิ่นเหล่านี้เป็นเคมี ทำให้มีผลต่อการย่อยของร่างกายเช่นกัน

ผลกระทบต่อการเติมกลิ่นเคมีในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น  มีผลโดยตรงต่อตับ เพราะน้ำมันมะพร้าวไหลสู่ร่างกายเร็วมาก ทำให้ตับดักจับเคมีที่มีพิษในร่างกาย เคมีกลุ่มที่ให้กลิ่นหอมจัดเป็นสารพิษอย่างหนึ่งที่ตับต้องทำงานย่อยและขับออกจากร่างกาย  ดังนั้นการเลือกซื้อน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ควรเลือกแบบที่ไม่ผสมกลิ่นหอม หากมีกลิ่นหอมควรหลีกเลี่ยงใช้ภายนอกร่างกายเท่านั้น

วิธีสังเกตุน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแบบไม่เติมกลิ่น คือ จะมีกลิ่นหอมของมะพร้าวเบา ๆ อ่อน ๆ หรือทดลองอมแล้วกลิ่นไม่ฟุ้งขึ้นจมูกมากเกินไป , ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ,ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าวเต็ม ๆ ควรเลือกแบบไม่มีการผสมกลิ่นนะคะ

กรณีผู้มีมะพร้าวใกล้บ้าน สามารถทำน้ำมันมะพร้าวใช้ได้เองง่าย ๆ คะ
โดยการคั้นเอาแต่หัวกะทิ แล้วนำไปแช่ตู้เย็น ซึ่งไขมันมะพร้าวจะแยกชั้นลอยแข็งอยู่บนหน้าสุด
เวลาใช้ให้ตักเอาไขมันแข็ง ๆ มาใช้เท่าที่ต้องการ โดยตักไปใส่ในกะทะแล้วเคี่ยวด้วยความร้อนต่ำ ๆ
เมื่อไขมันแตกตัวก็สามารถนำมาใช้สด ๆ ได้เลย สามารถนำมาปรุงอาหารแทนน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี
ได้ทันที หรือนำมารับประทาน , ทาผิว ซึ่งจะได้กลิ่นหอมของมะพร้าวสด ๆ เลยคะ  หากต้องการดับกลิ่น
จากน้ำมันมะพร้าวเมื่อปรุงอาหารเกรงว่ากลิ่นจะทำให้อาหารมีกลิ่นเพี้ยนไป ให้เติมหอมหัวแดงเจียวไปด้วยหอมแดงจะช่วยให้กลิ่นมะพร้าวลดลง และเก็บรักษาได้นาน ไม่หืน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณมีน้ำมันพืชไว้ใช้เองโดยไม่ต้องไปซื้อน้ำมันพืชขวดมาใช้ ข้อดีคือเก็บรักษาได้นานด้วยคะ , หาได้ตามบ้าน สำหรับบ้านที่มีมะพร้าวอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ได้คุณค่าทางอาหารจากของสด ๆ มากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้าน

หากต้องการเคี่ยวเก็บไว้ใช้นาน ๆ ก็ให้นำหอมแดงเคี่ยวลงไปด้วย เวลาจะใช้ก็นำมาใช้ได้สะดวก ไม่ต้องรอเคี่ยวใหม่สด ๆ ทุกครั้งไป แต่การเคี่ยวจะกลายเป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดร้อน ทำให้วิตามินอีสูญหายไปส่วนหนึ่งควรเคี่ยวด้วยไฟต่ำ ๆ

กรดอัลฟ่าไลโปอิค (Alpha Lipoic Acid) มีในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมาก   เป็นสารต้านออกซิเดชั่นที่ทรงพลัง ในการต่อสู้กับอนุมูลอิสระ ที่ปรากฏอยู่ใน ไมโตคอนเดรีย (mitochondria) ภายในเซลล์ นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า อนุมูลอิสระภายใน ไมโตคอนเดรีย (mitochondria) มีบทบาทสำคัญในการทำให้คนแก่ตัวลง จึงตั้งทฤษฎีว่า ถ้าให้สารยับยั้งออกซิเดชั่น อย่างกรดไลโปอิค ก็น่าชะลอความแก่ได้ กรดไลโปอิค  ยังช่วยรีไซเคิลวิตามินอี และ วิตามิน ซี ให้กลับเป็นรูปเดิม หลังจากวิตามินอี และ วิตามินซี ไปล้างพิษอนุมูลอิสระเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีหลักฐานว่า ช่วยลดความเสียหาย เวลาร่างกายมีน้ำตาลในเลือดมากไป ซึ่งอาจทำให้คนไข้เบาหวานดีขึ้น จากความสามารถที่เป็น Universal Antioxidant จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึม กรดอัลฟาไลโปอิกเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยง่าย ซึ่งจะช่วยในการกำจัดสารพิษที่อยู่ในร่างกายได้เป็นอย่างดี และ กรดอัลฟาไลโปอิกยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การทำงานของกลูตาไธโอน ซึ่งมีหน้าที่ขจัดสารพิษในตับ

ทำอย่างไรให้ได้กรดอัลฟ่าไลโปอิค เข้าสู่ร่างกายได้ผลดีที่สุด คือ การทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 1 ช้อนโต๊ะคู่กับกระเทียม 2 กลีบ โดยนำมาตำบดให้ละเอียด เพื่อรับประทานสด ๆ  สามารถทำเก็บไว้เพื่อรับประทานได้ทุกวัน โดยเป็นไปตามอัตราส่วนที่กำหนด

ในประเทศไทยมีผลงานวิจัยของ สกว. เกี่ยวกับการใช้กรดอัลฟ่าไลโปอิค ในผู้ป่วยที่มีผลแทรกซ้อนในไต หรือออกซิเดชั่นในไต  ผู้ป่วยโรคไต หรือโรคเบาหวาน ปลายประสาทมักจะชา หรือผู้ป่วยโรคหนังแข็ง ส่วนใหญ่จะเกิดภูมิคุ้มกันบกพร่อง อ่อนเพลียง่าย ตัวบวม  หลังจากได้รับประทานแล้วมีอาการดีขึ้น 90%  ซึ่งสารสำคัญที่ทำให้ดีขึ้นคือ สารประกอบกลูต้าไธโอน ที่ได้จากการสังเคราะห์ของตับ ทำให้โรคต่าง ๆ ดีขึ้น ผิวหนังสดใสสว่างขึ้นร่างกายดูอ่อนเยาว์  ด้วยผลจากกรดไขมันตัวดีเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง สำหรับสาว ๆ ปัจจุบันที่อยากขาวใส สามารถหาสารกลูต้าไธโอนจากธรรมชาติได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองคะ

กรณีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และพาร์กินสัน หรือโรคที่เกิดจากการควบคุมจากสมองทั้งหมด
ซึ่งเกิดจากปลายประสาททำงานผิดปกติ หรือขาดสื่อในการทำงาน ซึ่งสมองคือไขมันส่วนมากที่ต้องอาศัยกรดไขมันมาบำรุงเช่นกัน  สาเหตุของการป่วย คือ เกิดจากการบริโภคน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี หรือที่มีโอเมก้า 6 มากซึ่งขาดโอเมก้า 3 ในตัวโอเมก้า6 ที่มากเกินไปจะเข้าไปเคลือบและหยุดการดูดซึม การทำงานของสมองเมื่อมีการบริโภคน้ำมันมะพร้าวเข้าสู่ร่างกาย และไหลสู่ตับ จะถูกเปลี่ยนเป็นสารคีโตน ซึ่งสารนี้เป็นสารอาหารสำคัญของสมอง

การออยล์พูลลิ่ง หรืออมน้ำมันมะพร้าวกลั้วกลอกในปาก ยังเป็นวิธีหนึ่งที่ ดร.บรูฟ ไฟฟ์ ได้เขียนบทความจากผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยการอมน้ำมันมะพร้าวนาน 3 เดือน และมีอาการหายจากโรคพาร์กินสัน และเบาหวานอย่างไม่น่าเชื่อ

ตัวอย่างผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ที่มีอาการหนัก คือ มีนิสัยกลับกลายเป็นเด็ก ชอบขยำอุจจาระเล่น อาการก้าวร้าว ไม่ฟังใครโดยมีการนำน้ำมันมะพร้าวและขมิ้นชันมารับประทานคู่กัน ปรากฏว่าอาการดีขึ้น

โรคมะเร็งปากมดลูก
 โดยอาจารย์ได้ยกตัวอย่างผู้ป่วยที่มีอาการขั้นที่ 2 ได้รับการคีโมจากโครงการฟ้าหญิง ฯ
ซึ่งใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมงและมีอาการอักเสบ บวม  ทางอาจารย์จึงแนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวใส่สลิงที่ใช้ป้อนอาหารหรือสลิงดูดยาเด็ก ดูดน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 2 ซีซี แล้วฉีดเข้าไปใสช่องคลอด ในตำแหน่งที่เป็นมะเร็ง ทุกคืนก่อนนอนเป็นเวลานาน 1 เดือน ปรากฏว่าอาการทุเลาขึ้นมาก ทำให้แผลดังกล่าวแห้งไว  หากต้องการเห็นผลไวให้รับประทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นควบคู่ไปด้วย

โรคกระเพาะปัสสวะอักเสบ
ก็มีการรักษาคล้ายกันคือ ฉีดน้ำมันมะพร้าวไปในช่องคลอด เพื่อชำระล้าง ,และรับประทาน
น้ำมันมะพร้าว และน้ำเปล่าบ่อย ๆ มาก  ๆ จะทำให้ขับออกได้ดีขึ้น

โรคเริม และตกขาว
เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง สามารถรับประทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งมีโอเมก้า3 ในการยับยั้งไวรัสได้สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ โอเมก้า 6 ซึ่งอยู่ในน้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันทานตะวัน , ช็อคโกแลต,ถั่วทุกชนิดยกเว้นถั่วแดงข้าวโพด ,งา ,เบียร์ ,เหล้า  ที่จะทำให้มีการอักเสบขึ้นมาก  วิธีการรักษาโดยการนำน้ำมันมะพร้าสกัดเย็นดูดใส่สลิงฉีดเข้าไปในช่องคลอด 2 ซีซี หากเป็นตกขาวมาก ควรหลีกเลี่ยงการทานแป้งและน้ำตาล เพราะจะเป็นอาหารของโรคตกขาว

โรคต่อมลูกหมาก
รักษาโดยใช้น้ำมันมะพร้าวและมะเขือเทศสีดา 3 ผล มายีในกระทะอุ่น ๆ ไม่ร้อนเกินไป ซึ่งในมะเขือเทศจะมีสารไลโคปีนซึ่งจะละลายได้ดีในน้ำมัน  การใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็นตัวดึงสารอาหารออกมา และตัวน้ำมันมะพร้าวมีฤทธิ์ในการหยุดการอักเสบของต่อมลูกหมาก  โดยรับประทานวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ทุกวันจะทำให้อาการดีขึ้น

โรคภูมิแพ้
สาเหตุเกิดจากผนังลำไส้รั่ว ซึ่งมาจากการกินอาหารรสจัด หวานจัด เป็นต้น ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญ
ของเชื้อราคือแป้งและน้ำตาล ซึ่งต้องหยุดการรับประทานของเหล่านี้ และควรงดเว้นไขมันทรานส์,เนยขาว,นมวัว,ครีมเทียมแต่สามารถทานชีส,เนยแท้,โยเกริต,ผลผลิตจากวัวแต่ต้องผ่านกระบวนการหมักได้  แต่ควรเลี่ยงนมวัว เพราะมีโปรตีนตัวหนึ่งที่ร่างกายย่อยไม่ได้ อาการเมื่อทานเข้าไปมักจะท้องอืด มีลมในกระเพาะ ท้องป่องบวม เป็นต้นบางท่านแพ้มากมักมีอาการตัวบวม ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากเป็นโรคภูมิแพ้ควรงดเว้นอาหารหวานจัด ,ยาแก้อักเสบ,เสตียร์รอยด์,ยาคุม,ยาแก้แพ้ ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้จะมีผลต่อการทำลายแบคทีเรียตัวดีในร่างกาย  สิ่งที่ควรรับประทาน คือ โยเกริต์ , ผักผลไม้ ,น้ำมันมะพร้าว ซึ่งจะมีกรดไขมันสายปานกลาง ทำให้วิตามินบีเพิ่มขึ้น วิตามินบี 5 เป็นหัวใจสำคัญในการกระตุ้นไขกระดูกเป็นตัวควบคุมเมล็ดเลือดแดงและขาว ให้ทำงานกำจัดเชื้อแบคทีเรียตัวร้ายได้ดีขึ้น เป็นการกระตุ้น T.cell ซึ่งเป็นตัวควบคุมการทำงานไม่ให้ผิดปกติอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยจุลินทรีย์ในร่างกายทำให้ทำลายแบคทีเรียตัวร้ายได้ คือ ข้าวหมาก,ถั่วเน่าญี่ปุ่น,โยเกริต์ผสมกะทิให้เกิดรสเปรี้ยวโดยอาศัยการหมักให้เปลี่ยนรูป ก็ช่วยได้เช่นกัน  การรับประทานน้ำมันมะพร้าว เพียงอย่างเดียวก็สามารถฆ่าเชื้อโรค,เชื้อรา,แบคทีเรีย ได้ทั้งหมด เพราะประกอบไปด้วยกรดไขมันสายปานกลาง

โรครูมาตอยด์ ,โรค SLE , โรคลำไส้แปรปรวน ,โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง  เป็นโรคตระกูลเดียวกับโรคภูมิแพ้ทั้งหมด มีวิธีการรักษาเหมือนโรคภูมิแพ้ทั้งสิ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่กล่าวมาข้างต้น และรับประทานอาหารที่ใหม่สดจากธรรมชาติเป็นหลัก

โรคผื่นแพ้ทางผิวหนัง , สะเก็ดเงิน
ซึ่งโรคนี้มีอาการเป็นแผลผุพองตามผิวหนัง มักเกิดกับเด็ก ๆ ที่เป็นแผลง่าย วิธีการรักษา โดยการกินน้ำมันมะพร้าวทาผิวบริเวณที่เป็นแผลด้วยน้ำมันมะพร้าว กินโยเกริตทุกวัน วันละ 2 ถ้วย หลีกเลี่ยงแป้งสาลี ขนมปังทุกชนิด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซาลาเปา ปลาท่องโก๋ น้ำตาล ความหวานทั้งหมด ผลไม้รสหวานจัด นมวัว หลีกเลี่ยงรสเปรี้ยวจัด ผลไม้รสเปรี้ยวจัด(ยกเว้นโยเกริต์ผลิตภัณฑ์จากนมที่้มีการหมักทำให้เกิดโมเลกุลใหม่ทำให้ย่อยง่ายกว่านมวัว)  ผักที่มีจุกที่หัว 5 แฉก หรือผักตระกูลไนท์เฉด คือ ผักที่เติบโตตอนกลางคืน ได้แก่ มะเขือเทศ ,พริก ,มะเขือทุกชนิด ,อาหารเผ็ดจัด ,เค็มจัด ทำติดต่อกัน 3 อาทิตย์ จะทำให้สภาพผิวหนัง สุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  อย่างไรก็ตามควรหมั่นสังเกตุตนเองเป็นหลักควบคู่ไปด้วย

อีกปัจจัยหนึ่งสำคัญ คือ โมโนโซเดียมกลูตาเมต หรือผงชูรส ยังมีผลโดยตรงกับโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคเกี่ยวกับสมองในประเทศญี่ปุ่นได้มีการรณรงค์ไม่มีการบริโภคผงชูรสมานานแล้ว

สาเหตุหลักของโรคทั่วไปเกิดจากการกินไขมันชนิดไม่ดี เช่น น้ำมันพืชขวดที่ผ่านกรรมวิธี ,เนยขาว,มาการีน,ซาลาเปา,ขนมเปี๋ย,ครีมเทียมซึ่งเป็นสาเหตุของ โรคเบาหวาน หัวใจ มะเร็ง  เนื่องจากอาหารเหล่านั้นมีส่วนผสมของไขมันที่ได้จากน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีทั้งสิ้น และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์ อันเกิดจากการเติมสารไฮโดรเจนเพื่อให้ละลายได้ในน้ำ  ไขมันทรานส์ ทั้งหลายยังอยู่ในอาหารหลากชนิดในท้องตลาด หากคุณรู้จักกรรมวิธีการปรุงอาหารเหล่านั้นก็จะทราบแหล่งที่มา
ของอาหาร  อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะฉลาดในการเลือกรับประทานหรือไม่


เรียบเรียงโดย www.vannaherb.com
http://www.vannaherb.com/article