วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556

อีกหนึ่งประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าว คือ ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้อากาศ , โรค SLE , รูมาตอยด์ , หอบหืด , ลมพิษ

น้ำมันมะพร้าว 

อีกหนึ่งประโยชน์จากน้ำมันมะพร้าว คือ ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้อากาศ , โรค SLE , รูมาตอยด์ , หอบหืด , ลมพิษ

น้ำมันมะพร้าว มีบทบาทในการรักษาโรคภูมิแพ้ในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งได้ผ่านการทดลองใช้จริงจากผู้บริโภค  , ผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ

ซึ่งผลที่ได้รับเป็นไปในทางบวก อาการของโรคหายไป และไม่มีผลข้างเคียง
วิธีใช้ในการรักษา
- การอมกลั้วกลอกในปาก 15-30 นาที
- ทาผิวหนังเมื่อมีอาการ
- รับประทานวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร 1-2 ช้อนโต๊ะ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเอกสารวิชาการหน้าเวบ วรรณะสมุนไพร


วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

น้ำมันมะพร้าวแบบเป็นไขมีประโยชน์กว่าน้ำมันพืชขวดตามท้องตลาดจริงหรือไม่

 น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าว เป็นไขอันตรายต่อสุขภาพ !!   เรื่องน่าเศร้าที่คนไทยยังเข้าใจผิดกันอีกมาก

หลายท่านที่อยากบริโภคน้ำมันมะพร้าว  แต่ก็อดสงสัยหลายอย่างกลัวหลายสิ่ง วันนี้จึงได้นำเรื่องราวบางคำถามมาเล่าสู่กันฟังในที่นี้อีกรอบคะ

หลายคนเห็นน้ำมันมะพร้าวเป็นไขเมื่ออากาศเย็น ๆ ก็นึกกลัวขึ้นมาว่า ถ้ามันเข้าไปในร่างกายของเราจะแข็งในหลอดเลือดเราหรือไม่  บางท่านก็กลัวกินไปแล้วจะเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน บางท่านก็ว่าคอเลสเตอรอลมันสูง  ทั้งหมดนี้เกิดจากการให้ความรู้ผิด ๆ ด้วยหลักการที่ว่า "ไขมันอิ่มตัว" ทั้งหมดเป็นไขมันที่แย่  ด้วยการขาดความรู้ที่แท้จริงทำให้คนหลายคนเลิกกินน้ำมันที่เป็นไขกันไปเลยทีเดียว
แต่ต่างชาติกลับนำเข้าน้ำมันมะพร้าวจากโซนเอเชียด้วยยอดมหาศาล  แต่เจ้าของเมืองมะพร้าว กลับไม่เคยหันมารับประทานและใส่ใจกับมันเลย 

ซึ่งแท้จริงต่างชาตินั้นเลิกทานน้ำมันพืชตามท้องตลาดกันมานานมากแล้ว  เพียงเพราะผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมน้ำมันพืชขวด ประชาสัมพันธ์แต่ในมุมบวกของตนแต่ไม่เคยกล้า บอกถึงผลเสียของมัน 

หากมองย้อนกลับไปในอดีตจนถึงปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยโรคมะเร็ง เบาหวาน โรคอ้วน มีปริมาณสถิติมากขึ้นเรื่อย ๆ  ดังนั้นถึงเวลาแล้วค่ะ ที่ควรจะหันมาศึกษาข้อดีข้อเสียกันอย่างจริงจัง  ไม่ใช่เพียงบริโภคข้อมูลโฆษณาอย่างเดียว 

น้ำมันพืชตามท้องตลาดทำไมไม่เป็นไข เมื่ออยู่ในที่เย็น มีอันตรายต่อสุขภาพจริงหรือไม่
น้ำมันพืชแบบขวดตามท้องตลาด มีการเติมสารไฮโดรเจน  เมื่อนำไปทอดอาหาร ก็จะเกิดสารตัวใหม่ขึ้นเรียกว่า "ไขมันทรานส์" trans fats โมเลกุลน้ำมันเปลี่ยนรูปร่างไป  ในทางอุตสาหกรรมน้ำมันพืช ใช้ความดันและสารแคตาลิสต์เข้าช่วย เพื่อไม่ให้ไขมันอิ่มตัวจับตัวแข็งเมื่ออยู่ในที่เย็น และไม่เกิดการเหม็นหืน  ซึ่งไขมันทรานส์ มีผลเสียต่อเซลล์ ทำให้เยื่อบุเซลล์สลาย เชื้อโรคหรือสารพิษก็เข้าไปในเซลส์ได้ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของ DNA ทำให้เกิดเซลล์มะเร็ง ตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง ซึ่งเป็นที่มาของโรคต่างๆ อีกมากมาย

น้ำมันมะพร้าว  จึงมีความแตกต่างกับน้ำมันพืชตามท้องตลาดหลายประการ เช่น เป็นไขในอุณหภูมิเย็น , มีกลิ่นมะพร้าวแรง ,น้ำมันมะพร้าวมีวิตามินสูงกว่า เป็นต้น  ปัจจุบันราคา "น้ำมันมะพร้าว" ค่อนข้างราคาสูง เนื่องจากปริมาณการผลิตไม่เพียงพอต่อการบริโภค และยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเชิงอุตสาหกรรมอย่างจริงจังน้อย  อย่างไรก็ตามน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ จะมีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่ทำลายเซลล์ในร่างกายจะต้องเป็นน้ำมันพืชที่ไม่ผ่านการแต่งเติมสารใด ๆ  ดังนั้นจงอย่ากลัวความเป็นไขของไขมัน เพราะคุณสมบัติการเป็นไขแสดงถึงความอิ่มตัวของน้ำมันที่ไม่ได้แต่งเติมสารใด ๆ  ที่สำคัญน้ำมันนั้นจะต้องเป็นน้ำมันแบบสกัดเย็น ไม่ผ่านความร้อนจึงจะมีคุณสมบัติที่อุดมไปด้วยวิตามินอีและแร่ธาตุต่าง ๆ

สุดท้ายนี้ขอทุกท่านจงอย่ามองแต่ด้านเดียว เพราะเหรียญย่อมมี 2 ด้าน 
บทความโดย  วรรณะสมุนไพร 


วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

คำถามสุดฮิตกับการรับประทาน "น้ำมันมะพร้าว" และเทคนิคการรับประทาน "น้ำมันมะพร้าว" ให้ง่าย และอร่อยที่สุด

คำถามสุดฮิตกับการรับประทาน "น้ำมันมะพร้าว"  และเทคนิคการรับประทาน "น้ำมันมะพร้าว" ให้ง่าย และอร่อยที่สุด

มีหลายท่านได้ยินสรรพคุณหลากหลายของน้ำมันมะพร้าว ก็เลยมีคำถามคาใจหลายข้อเลยทีเดียว
วันนี้เลยนำคำถามยอดฮิตมาอธิบายกันในที่นี้อีกครั้งคะ

1.น้ำมันมะพร้าว  มีดีอย่างไร
ตอบ  น้ำมันมะพร้าว คือ น้ำมันที่สกัดได้จากหัวกะทิสด ๆ โดยไม่ผ่านความร้อน อุดมไปด้วยวิตามินอี และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น กรดลอลิกและโมโนลอลิน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ซึ่งเป็นสารที่อยู่น้ำนมน้ำเหลืองมารดาต้านโรคไวรัสได้ชะงัก และปรับสมดุลร่างกายแห่งโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็ง เบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคอ้วน ไข้หวัดใหญ่ เริม หัด งูสวัด ตับอักเสบ โรคหัวใจ เป็นต้น

และทางร้านก็จะแนะนำให้อ่านเอกสารวิชาการจากชมรม ฯ โดยสามารถดาวน์โหลดอ่านได้ฟรีๆ ที่หน้าเวบเลยค่ะ     "ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว"

2. รับประทาน น้ำมันมะพร้าวอย่างไร จึงจะได้ผล
ตอบ   ควรรับประทานก่อนอาหาร 1-2 ช้อนโต๊ะต่อมื้ออาหาร สามารถทานได้ 3 เวลา โดยพิจารณาจากธาตุของแต่ละบุคคลเช่น หากท้องเดินอยากถ่ายไวก็ให้ลดปริมาณการรับประทานเป็น 1 ช้อนชา และค่อย ๆ เพิ่มขึ้น  ซึ่งเหมาะกับการนำมาใช้กับเด็กด้วยเช่นกัน ควรปรับให้น้อยลงตามธาตุคะ

โดยเด็ก ๆ หรือผู้ที่นำหนักตัวน้อย ๆ ให้ทานเพียงช้อนชาก่อน แล้วสังเกตุอาการว่ารู้สึกอย่างไร
อาการที่จะเกิดหลังจากรับประทาน  คือ
- อาการท้องเดินอยากถ่ายอย่างไวเกิดขึ้น    ซึ่งจะเกิดจากรับประทานไปแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมง  หากไม่ถ่ายแสดงว่าธาตุหนักค่ะ  ซึ่งหมายถึงร่างกายมีแร่ธาตุหนักอยู่ในร่างกายเยอะ   หลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของอากาศ ถ้าเกิดว่าอากาศเย็นส่วนใหญ่แล้วมักจะทำให้ท้องผูกมากกว่ารอยู่ในที่ที่มี อากาศร้อน ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคท้องผูก โดยเฉพาะในผู้หญิงก่อนมีรอบเดือนก็มักจะท้องผูก ความเครียด การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การนอนดึกบ่อยๆ ไม่ออกกำลังกาย ดื่มน้ำน้อย ทานผักผลไม้น้อย ล้วนแล้วแต่เป็นต้นตอของการเกิดท้องผูก และนอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆอีก ยิ่งถ้าเกิดว่าเป็นคนที่มีธาตุหนัก ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะยิ่งมีปัญหากับระบบขับถ่าย
น้ำมันมะพร้าว  สามารถเข้าไปล้างลำไส้ได้ดี สารพิษต่าง ๆ ก็จะถูกจับออกมาจากลำไส้ได้ หลังจากนั้นร่างกายก็จะดูดซึมได้ดีขึ้น

-  อาการครั่นตัว ไม่สบายกาย ผะอืดผะอม เวียนหัว และอาการอีกหลากรูปแบบ ซึ่งแต่ละคนก็แตกต่างกันไป อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายใน 7 วันแรก ของการรับประทาน บางท่านก็ยาวนานถึง 1 เดือน ก็มี
ลักษณะดังกล่าว เป็นการปรับตัวของร่างกาย ซึ่งไม่มีผลอันตราย ใด ๆ เลยค่ะ   เพราะน้ำมันมะพร้าว  เป็นสารธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน หากทานมากไปก็ไม่มีผลกระทบใด ๆ  นอกเหนือจากการอยากขับถ่ายมากเกิน 

ลักษณะที่เกิดขึ้นเกิดจาก  น้ำมันมะพร้าว  ไปจับสารเคมีในร่างกายออกมาทำให้ร่างกายไม่เคยชินกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  ซึ่งปกติร่างกายของคนเราจะเคยชินกับสารต่าง ๆ ที่เข้ามาในร่างกาย เช่น คนที่สูบบุหรีเป็นประจำทุกวัน มักจะติดกับสารนิโคตินในร่างกาย ทำให้ร่างกายเคยชินกับสารนี้  เมื่อทานอาหารเข้าไปก็รู้สึกว่าต้องการสารนิโคตินเข้าไป ทำให้อยากสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเลิกบุหรี่ที่ยากเย็นเหลือเกิน  บางท่านก็เกิดอาการน้ำลายเหนียว  หงุดหงิด กระสับกระส่าย

ข้างเป็นเป็นการยกตัวอย่างให้เห็นว่าการที่เรารับประทานน้ำมันมะพร้าวไปก็เช่นกัน เมื่อสารพิษไม่มี ร่างกายก็เริ่มปรับตัวใหม่ เสมือนเครื่องยนต์ใหม่ ที่ได้รับการถ่ายน้ำมันเครื่องก็ว่าได้เลยคะ

สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เห็นผลได้อย่างดีคือ  ต้องมีความอดทนต่อการรับประทานในช่วงแรก ซึ่งเป็นระยะการปรับตัวที่แสนจะยากเย็นเหลือเกิน  ทำให้หลายคนขยาด และไม่อยากกินน้ำมันมะพร้าวอีกเลย

เทคนิคการรับประทาน "น้ำมันมะพร้าว" ให้ง่ายและอร่อยที่สุด

* รับประทาน น้ำมันมะพร้าว ครั้งเดียวหมดอึก

ทานหมดอึกในครั้งเดียวเหมาะสำหรับผู้ที่หัดรับประทาน หรือทานยาก
 โดยตวงใส่ขวด 30 มล. จากทางร้าน หรือ ถ้วยแก้วขนาด 2 ช้อนโต้ะ โดยเป็นการตวงในภานะที่มั่นใจว่าทานหมดภายในครั้งเดียว อย่างรวดเร็ว  หลีกเลี่ยงการทานแบบช้อนทานข้าว เพราะเวลาจะทาน 2 ช้อนก็มักจะต้องทาน 2 ครั้ง ทำให้การสัมผัส "น้ำมันมะพร้าว" เกิดขึ้นหลายที ทำให้รับกลิ่น และทานได้ช้าลง  ประโยชน์ของการทานอย่างรวดเร็ว มีดีอยู่ที่เรากลืนลงคอได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องสัมผัสลิ้นมาก การรับรู้รสก็น้อยลง  เทคนิคสุดท้ายคือการตามด้วยน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่มีอยู่ใกล้ตัว ทานตามได้เลยทันทีหลังกลืนน้ำมันนั้นลงคอไป  
            เพียงเท่านี้ก็จะทำให้การทานน้ำมันมะพร้าว  เป็นได้ง่ายขึ้น

*  ดับกลิ่นน้ำมันมะพร้าวเพื่อการทานดีกว่า    

ทำไมต้องดับกลิ่นมะพร้าว  เนื่องจากมีหลายท่านโทรมาเล่าให้ฟังว่ากลิ่นน้ำมันมะพร้าวเมื่อลงสู่กระเพราะไป กลิ่นนี้ตีดันเหลือเกิน ผะอืดผะอมบ้าง ทำให้ไม่สบายตัว  บางท่านก็ว่าหอมมะพร้าวอร่อยก็มี  ดังนี้เลยแนะนำวิธีการดับกลิ่นน้ำมันมะพร้าว สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นของมะพร้าว   สามารถทำได้โดยการ  เติมกลิ่นผสมอาหารลงไป  เป็นวิธีที่หลายคนบอกว่าไม่อยากทำเลย เพราะอยากได้สารธรรมชาติแท้ ๆ ไม่ต้องเติมแต่งอะไรลงไป  แต่ก็เป็นวิธีแรกสำหรับคนที่ทานยากค่ะ   เพราะการเติมสารให้กลิ่นลงไป หากเติมในปริมาณที่พอเหมาะย่อมไม่เป็นอันตรายค่ะ   ในปัจจุบันมีหลากหลายกลิ่นให้เลือก  ดิฉันได้ไปเดินตามห้างสรรพสินค้า มีกลิ่นที่นำไปผสมในเบเกอรี่หลากหลายกลิ่น  เช่น  กลิ่นวนิลา , กลิ่นสัปรด , กลิ่นกาแฟ , กลิ่นอัลมอนด์  และอีกหลากกลิ่นที่เคยรับประทานกันอย่างไม่รู้ตัวในขนมเบเกอรี่
             การนำมาผสมก็ควรดูให้เหมาะกับปริมาณของน้ำมันมะพร้าวด้วยค่ะ  ไม่มากเกินไป เป็นไปตามอัตราส่วนที่กำหนด  เพียงเท่านี้ก็จะได้กลิ่นน้ำมันมะพร้าวที่หอมสำหรับรับประทานแล้วคะ
             น้ำมันหอมอีกชนิดที่สกัดจากธรรมชาติจริง ๆ  สามารถรับประทานได้ก็มีจำหน่ายค่ะ แต่ค่อนข้างแพงและหายาก  เช่น  กลิ่นตะไคร้ , กลิ่นดอกไม้ต่าง ๆ  ซึ่งน้ำมันหอมดังกล่าว สกัดจากธรรมชาติจริงไม่ใช่สารสังเคราะห์ตามข้างต้น  มีความปลอดภัยสูง แต่หากท่านใดสะดวกิธีนี้ก็แนะนำเลยคะ

*  ผสมลงในอาหาร ทานแบบไม่รู้ตัวก็ดีเือนกัน

การนำ "น้ำมันมะพร้าว"ผสมลงในอาหารเลยก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เราทานได้อย่างไม่ต้องกังวล  
เช่น  การนำมาเป็นส่วนผสมของการทำน้ำสลัด ใช้แทนน้ำมันพืชแบบน้อย ๆ , ใส่ลงในน้ำแข็งใส  ,  นำมาราดบนขนมหวานต่าง ๆ , แช่แข็งทาขนมปังแทนเนยสด  ,  ทำไข่กวน   และอีกหลากเมนูได้อย่างดีค่ะ  โดยการใส่ก็ควรใส่ในปริมาณไม่มากเกินไป หากมากเกินไปก็จะไปดับกลิ่นของอาหารหลักซ่ะหมด

*   ผสมลงในหม้อหุงข้าว 

วลาเราทานข้าวมันไก่ คุณรู้มั้ยเค้าใส่มันไก่กับเครื่องเทศลงไป ทำให้ข้าวมันหอมและเม็ดสวยค่ะ
น้ำมันมะพร้าวก็สามารถทำให้ข้าวของคุณอร่อยได้เหมือนกันค่ะ   โดยการนำน้ำมันมะพร้าวพอเหมาะ เทลงไปในหม้อตอนหุงข้าวปกติ และทุบกระเทียบพริกไทยเล็กน้อยลงไป ด้วยก็จะยิ่งทำให้ข้าวนั้นหอมอร่อยมากขึ้นด้วยค่ะ


บทความโดย  :   วรรณะสมุนไพร  
www.VannaHerb.com 






วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

โลชั่นจาก น้ำมันมะพร้าว ผสมกลิ่นน้ำหอม Happy in Bloom และ โลชั่น ผสมกลิ่นน้ำหอม Sweet Almond

น้ำมันมะพร้าว

ใหม่ !!  สินค้าจากน้ำมันมะพร้าว (โปรโมชั่นเดือน มีค.56)

โลชั่น ผสมกลิ่นน้ำหอม Happy in Bloom  ความสุขในมวลดอกไม้  โปรโมชั่นเหลือเพียง 200 บาทเท่านั้น
และ  โลชั่น ผสมกลิ่นน้ำหอม Sweet Almond 

โลชั่นน้ำหอมแพ็คคู่  Happy in Bloom และ Sweet Almond  เพียง 350 บาท

*คุณสมบัติ :  โลชั่นเนื้อบางเบาผลิตจาก น้ำมันมะพร้าว ผสมกลิ่นน้ำหอมโทนหอมหวาน และกลิ่นจากพืชตระกูลซีทรัส  โดยใช้สีชมพู สื่อกลิ่น Happy in bloom และสีฟ้า สื่อกลิ่น Sweet Almond  กลิ่นติดทนนานตลอดวัน และไม่ฉุนเกินไป

เหมาะสำหรับผู้แพ้น้ำหอมง่าย สามารถใช้แทนได้ดี ใช้ได้ทั้งชายและหญิง
สินค้าพร้อมส่งค่ะ  ติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Vannaherb@gmail.com


วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

แจ้งข่าว เรื่อง ...เปลี่ยนกลิ่นโลชั่น น้ำมันมะพร้าว ขนาด 250 มล. จากกลิ่นปกติ เป็นกลิ่นเดียวกับ สบู่เหลว น้ำมันมะพร้าวแล้วค่ะ ตั้งแต่ 15 มีค.56 เป็นต้นไป

แจ้งข่าว

เรื่อง ...เปลี่ยนกลิ่นโลชั่น น้ำมันมะพร้าว 
ขนาด 250 มล. จากกลิ่นปกติ เป็นกลิ่นเดียวกับ สบู่เหลว น้ำมันมะพร้าวแล้วค่ะ
ตั้งแต่ 15 มีค.56 เป็นต้นไป

เนื่องจากลูกค้าหลายท่านได้แจ้งเข้ามาว่าอยากให้ปรับปรุงกลิ่นของโลชั่นจากกลิ่นเดิม มาเป็นกลิ่นใหม่ 
ทางร้านจึงทดลองเปลี่ยนกลิ่นเป็นกลิ่นเดียวกับสบู่เหลว น้ำมันมะพร้าว  กรณีลูกค้าต้องการกลิ่นเก่า สามารถสั่งจอง แจ้งเข้ามาล่วงหน้าได้ค่ะ เพื่อรวมออเดอร์สั่งผลิตต่อไป






น้ำมันมะพร้าว ดีกว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีอย่างไร

น้ำมันมะพร้าว

ดีกว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีอย่างไร


น้ำมันมะพร้าว ดีกว่า น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี อย่างไร ทำไมจึงควรหันมาทานน้ำมันที่ไม่ผ่านความร้อนกันมากขึ้น

น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีก็ คือ น้ำมันพืชตามท้องตลาด ที่โฆษณาว่าแช่เย็นแล้วไม่เป็นไขนั่นเอง
ที่ไม่เป็นไขเพราะได้มีการแต่งเติมสารเคมี เช่น โซดาไฟ สารฟอกขาว และเติมสารไฮโดรเจนลงไป เพื่อป้องกันการเหม็นหืน
และเก็บไว้ได้นาน และที่สำคัญคือไม่เป็นไขนั่นเอง ซึ่งถูกใจผู้บริโภคในปัจจุบันกันมาก  แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ น้ำมันพืชชนิดนี้
จะมีความเหนียวหนืดเร็ว  และจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง ที่ความร้อน ประมาณ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป

น้ำมันมะพร้าว  เป็นน้ำมันที่ไม่ได้เติมสารเคมี ไม่ผ่านกระบวนการความร้อน เต็มไปด้วยวิตามิน และเป็นไขมันอิ่มตัวชนิดดีที่
ละลายน้ำได้ จับตัวกันเป็นก้อน ทนต่อความร้อนสูง  ไม่เติมไฮโดรเจน จึงไม่มี Trans Fatty Acid หรือ TFA  จึงไม่เสี่ยงต่อ
การเป็นโรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน

น้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธี เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วจะจับกับผนังหลอดเลือด กำจัดออกได้ยาก จึงเป็นที่มาของโรคต่าง ๆ
มากมาย โรคที่ฮิตกันในปัจจุบันคือ โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์  เหตุของการเป็นโรคต่าง ๆ เกิดจาก น้ำมันพืช
ที่ผ่านกรรมวิธีที่ไปเคลือบในระบบดูดซึมของร่างกาย แล้วไม่มีทางออกจากร่างกาย ทำให้สารอาหารต่าง ๆ ไม่สามารถดูด
ซึมไปใช้งานได้ ซึ่งสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งาน ส่วนใหญ่จะต้องละลายในน้ำได้เช่นกัน พวก กรดอมิโน วิตามินบี
 วิตามินซี

การเจ็บป่วยต่าง ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยเห็นกันอย่างชัดเจนในตอนแรก แต่จะค่อยสะสมจนถึงระยะนึงแล้วแสดงอาการ
ออกมาให้เราเห็น ทำให้มีการตั้งคำถามว่าแล้วน้ำมันแต่ละชนิดที่ผ่านกรรมวิธีตามท้องตลาด เป็นน้ำมันพืชที่เลวใช่หรือไม่
คำตอบก็คือ ถ้าผ่านกรรมวิธีล้วนมีการเติมสารเคมีย่อมไม่ดีค่ะ  แต่ถ้าเลือกใช้น้ำมันที่ไม่ผ่านการเติมแต่งสารใด ๆ เลยจะ
ดีที่สุด  ยิ่งน้ำมันพืชที่เป็นไขให้เห็นได้ยิ่งเป็นน้ำมันพืชที่ดี เพราะแสดงถึงการไม่ผ่านการแต่งเติมแต่งสารใด ๆ แน่นอน น้ำมัน
ทุกชนิด เป็นไขมันอิ่มตัว ต้องเป็นไข ซึ่งเป็นคุณสมบัติของน้ำมันที่ดี  จึงไม่แปลกเลยที่ต่างชาติเข้ามาประเทศไทยถามห
แต่น้ำมันมะพร้าวแบบเป็นไข ทำให้ร้านค้าจำหน่ายต้องนำน้ำมันมะพร้าวมาแช่ตู้เย็นโชว์กันเลยทีเดียว

ดังนั้นหากท่านเจอน้ำมันพืช ที่เป็นไขแล้วก็อย่าตกใจกลัวนะคะ  นั่นเพราะมันคือน้ำมันที่ดี แต่น้ำมันอีกชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงคือ
 น้ำมันหมู ที่เป็นไขมันจากสัตว์ สามารถบริโภคได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป เนื่องจากไขมันสัตว์จะมีคอเลสเตอรอลสูงกว่าน้ำมันพืช
จากต้นไม้ธรรมชาติ   จะว่าไปแล้วน้ำมันพืชเป็นไขมันอิ่มตัวชนิดดี ที่ไม่ไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล หรือเรียกว่า HDL
 (High density lipoprotein) ขณะเดียวกันจะช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ที่เป็นสาเหตุของเบาหวาน โรคหัวใจ 
หรือเรียกว่า LDL

(อ้างอิงบทความจากผลงานวิจัยแปลจากนักโภชนาการต่างชาติ และดร.ณรงค์ โฉมเฉลา)
เรียบเรียงโดย ...วรรณะสมุนไพร

www.vannaherb.com
www.facebook.com/vannaherb

วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

แจ้งข่าว..โปรโมชั่น " น้ำมันมะพร้าว" เดือน มีค.56 สินค้าราคาพิเศษ




  

   Promotion สินค้าราคาพิเศษ   

  
โปรโมชั่น !! วันนี้ถึง 30 มีค. 56
  • แชมพูและครีมนวด แพ็คคู่ ราคา 340 บาท  แถมฟรี ครีมนวดผมอีก 1 ขวด ( จ่ายเพียง 2 ได้ฟรีอีก 1 ลดแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว )  คลิก
  • ครีมนวดผมน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จากราคาปกติ 170 บาท ลดเหลือ 120 บาท  คลิก
  • โลชั่นน้ำมันมะพร้าว กลิ่นน้ำหอม แพ็คคู่ กลิ่น Happy in Bloom  และ  Sweet Almond ลดเหลือเพียง 350 บาทเท่านั้น  คลิก
  • โลชั่นน้ำมันมะพร้าว กลิ่นน้ำหอม 2 สไตล์  1 ขวด ลดราคาเหลือเพียง 200 บาทต่อขวด  คลิก
* สั่งซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท ส่งฟรี EMS และ รับของแถมฟรี *
" น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นสำหรับทาผิวกลิ่นดอกไม้และพืชตระกูลซีทรัส 1 ขวด "